บ้านเก่านั้นมีเสน่ห์ตรงเป็นความทรงจำที่สวยงามที่ผ่านเรื่องราวต่างๆมาเป็นสิบๆปี และบ่งบอกถึงสถาปัตยกรรมและการตกแต่งที่เป็นที่นิยมในสมัยนั้นๆ แต่ด้วยความเก่าแก่ที่ผ่านฝนผ่านหนาวมานาน ก็จะทำให้บ้านนั้นชำรุด ทรุดโทรมลง และอาจจะไม่เข้ากับยุคสมัยที่เปลี่ยนไป เลยต้องมีการปรับปรุงบ้านเก่าให้ทันยุคสมัย และพร้อมใช้งาน อย่างบ้านที่ไอเดียบุคนำเสนอในวันนี้เป็นบ้านเก่าทรงคลาสสิคตั้งแต่ยุค30 ปรับปรุงอีกครั้งในยุค60 และกับครั้งล่าสุดที่เราจะปรับปรุงเพื่อให้เข้ากับยุคสมัยปัจจุบัน
บ้านนี้มีความคลาสสิคและมีเสน่ห์มาหลายสิบปี แต่พอมาเทียบกับปัจจุบันแล้ว มีสภาพทรุดโทรมลงมาก และแบบบ้านก็ล้าสมัย พื้นที่ใช้สอยไม่ตอบโจทย์สำหรับคนรุ่นใหม่ที่อยากได้บ้านที่มีพื้นที่มากสำหรับครอบครัวใหญ่ อย่างห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ หรือ เรือนกระจกที่โปร่งเพื่อรับแสงธรรมชาติและไว้ชมวิวได้ในมุมกว้าง
สถาปนิกพยายามออกแบบบ้านให้ตรงตามความต้องการของผู้อาศัยโดยต้องมี ความทันสมัยและพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวางและโปร่งเพื่อให้แสงธรรมชาติ เข้ามาถึง จึงออกแบบให้มีการขยายความกว้างของบ้านออกด้านข้างเป็นเหมือนเรือนกระจก 2 บล๊อกยื่นออกมาจากใต้หลังคาหน้าบ้าน และทาสีแดงตัดขอบ ของเรือนกระจกที่สร้างใหม่ เพื่อความโดดเด่นและทันสมัย มีพื้นที่เพราะปลูกหน้าบ้าน จัดเป็นสวนเพื่อให้ได้วิวที่สวย หากมองออกมาจากเรือนกระจก
สภาพภายในบ้านในส่วนของห้องนั่งเล่นศูนย์รวมของครอบครัวนั้น แม้จะมีหน้าต่างขนาดใหญ่ในห้องนี้ แต่ห้องก็ยังดูมืดและแคบมาก เมื่อมีการนำเฟอร์นิเจอร์มาวางอยู่หลายๆที่และส่วนนี้ คือจุดที่ต้องปรับปรุงเพื่อให้ทันสมัยและสอดคล้องกับความต้องการของเจ้าของบ้าน
เมื่อมีการปรับปรุงบ้าน สถาปนิกเพิ่มพื้นที่ ด้วยการขยายบ้านออกไปเป็นเรือนกระจก และปรับผนังด้านนอก ทำให้บ้านกว้างขึ้น สามารถแบ่งโซน เป็นมุมต่างๆได้ชัดเจนขึ้น ตอบโจทย์ของผู้อยู่อาศัย อย่างห้องรับประทานอาหารก็ดูกว้างขวางมากขึ้น ที่สำคัญแสงสว่างที่ลอดเข้ามา จากหน้าต่างบานใหญ่ ยิ่งทำให้ภายในบ้านสว่างสดใส และดูน่าอยู่มากขึ้น
นี่คือมุมห้องนั่งเล่น ที่ได้ปรับปรุงใหม่ ให้โล่ง โปร่ง สบายด้วยแสงธรรมชาติที่ลอดเข้ามาจากหน้าต่างบานใหญ่ และวิวมองสวนชื่นชมธรรมชาติแบบพาโนรามา มีชุดโฮมเธียเตอร์ขนาดใหญ่ ยิ่งทำให้ห้องนั่งเล่นนี้ กลับมามีชีวิตชีวา น่าอยู่ และเป็นศูนย์รวมของครอบครัวได้เป็นอย่างดี